สนามกีฬา : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
“บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน เจ้าบ้าน อาร์เซนอล ที่หล่นไปอยู่อันดับ 6 หลัง 3 เกมหลัง เก็บ 7 แต้ม ล่าสุดเสมอ ฟูแล่ม 2-2 เกมนี้เปิดที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 10 มี 6 แต้ม นัดล่าสุดในบ้าน เอาชนะ ฟอเรสต์ 3-2
“เดอะกันเนอร์ส” มิเคม อาร์เตต้า จัดทีมที่ดีที่สุดแม้จะขาด โธมัส ปาร์เตย์ โดยวาง เดแคลน ไรซ์ คุมส่วนกลางร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด และ ไค ฮาเวอร์ แนวรุก 3 ราย ได้แก่ บูกาโย ซาก้า, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และกาเบรียล มาร์ติเนลลี
ส่วนเอริค เท็น ฮาก นายใหญ่ “ผีแดง” ส่ง อองโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นตัวเป้าประสานงานเกมรุกกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ บรูโน่ เฟอร์นันด์ เอส และอันโตนี่ ขณะที่คู่กลางคือคาเซมิโร่ และคริสเตียน อีริคเซ่น ขณะที่ราสมุส ฮอยลันด์มีรายชื่อเป็นตัวสำรองที่หวังจะได้ประเดิมสนามให้ปีศาจแดง
ครึ่งแรกกลายเป็นอาร์เซน่อลพยายามบุกทำประตู โดยเฉพาะจังหวะของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ที่สีส้มล้มหน้าประตูไม่ถึง 10 หลา แต่ยิงเอง
นาทีที่ 27 แฟนบอล “เดอะกันเนอร์ส” ต้องเงียบกริบ โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ฮาเวิร์ตซ์พลาดบอลเข้ากลางเกมถูกตัดออกก่อน คริสเตียน อีริคเซ่น จะแทงบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลากจี้เข้ากลางก่อนจะตีด้วยขวาตามสูตรบอลทะยานไปเสาไกลอย่างสวยงาม
แต่ “ปีศาจแดง” ปลื้มได้เพียงนาทีเดียวที่ อาร์เซน่อล ตีเสมอ 1-1 ทันทีหลัง มาร์ติเนลลี่ ลากเข้าเขตโทษจ่ายให้ มาร์ติน โอเดการ์ด ทำประตู เสียบเข้ามุมแล้วหนีจากมือของโอนาน่าอย่างเด็ดขาด
ผ่านไป 45 นาที เสมอกัน 1-1
ครึ่งหลังเริ่มในนาทีที่ 54 บรูโน่ แฟร์นานเดส แทงทะลุช่องหลุด อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยิงจากซ้ายในเขตโทษ อารอน แรมส์เดล ซัดผ่าน มาร์คัส แรชฟอร์ด ความพยายามครั้งที่สองถูกบล็อกโดย Williams Saliba
อีกห้านาที อารอน วาน-บิสซาก้า ก็ตามมาสกัดไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสิน แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ชี้จุดโทษก่อนตรวจสอบด้วย VAR และกลับคำพูด ตัดสินใจ: ปีศาจแดงรอดชีวิต
นาทีที่ 67 เอริก เทน ฮาก ได้ปรับแผนส่ง ราสมุส ฮอยลันด์ กองหน้าคนใหม่เข้ามาแทนที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โดยมี แฮร์รี แม็กไกวร์ คุมแดนหลังแทน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นนาทีที่ 81 กันเนอร์สเกือบทำได้ เบ็น ไวท์เลี้ยงบอลทางฝั่งขวาบอลมาทางบูกาโย ซาก้า ที่เข้ามาซัดเต็มเท้าไม่ไกลนัก Andre Onana หมอบลงและใช้เข่าเพื่อเอาตัวรอดจากอันตราย
ปีศาจแดงพลาดสกอร์สำคัญในนาทีที่ 88 เมื่อ ราสมุส ฮอยลันด์ จ่ายบอลผ่านคาเซมิโร่จากกลางสนามให้อเลฮานโดร การ์นาโช่แย่งบอลแล้วยิงส่งบอลเข้าก้นตาข่าย แต่ Hege VAR เช็คก่อน
แต่ทดเวลาบาดเจ็บ 90+6 บูกาโย ซาก้า เตะมุมบอลลอยไปทางดีแคลน ไรซ์ จับแล้วเหวี่ยงไปทางซ้ายแฉลบ จอนนี่ อีแวนส์ กดไปชนเสาแรก อังเดร โอนาน่า รีบปฏิเสธบอล ก้นตาข่ายก่อนนาที 90+10 กาเบรียล เฆซุส หลุดฟรีดล็อคหลุด ดิโอโก้ ดาโลต์ ยิงออกจากผู้รักษาประตูทีมเยือน จบเกม อาร์เซน่อล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล (4-3-3) : อารอน แรมส์เดล – เบน ไวท์, วิลเลียมส์ ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเฮส, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ (ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ น.76) – มาร์ติน โอเดการ์ด (จอร์จินโญ่ น.90+9), ดีแคลน ไรซ์, ไค ฮาแวร์ตซ์ (ฟาบิโอ วิเอร่า น.76) – บูกาโย ซาก้า, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (กาเบรียล เฆซุส น.76) , กาเบรียล มาร์ติเนลลี (รีสส์ เนลสัน น.90)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อังเดร โอนาน่า – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ (จอนนี่ อีแวนส์ น.84), ลิซานโดร มาร์ติเนซ (แฮร์รี แม็กไกวร์ น.67), ดิโอโก้ ดาโลต์ – คาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น – อันโตนี่ (อเลฮานโดร คาร์นาซิโอ น.84), บรูโน เฟอร์นาน หงส์แดง, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (ราสมุส ฮอจลุนด์ น.67)